EPSON Multimedia Projector ความบันเทิง “ยิ่งใหญ่” ภายในบ้าน(Marketeer/01/46) ปัจจุบันโปรเจคเตอร์ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานและการสร้างสรรค์ความบันเทิง ทั้งที่บ้านและสำนักงาน เนื่องจากราคาจำหน่ายที่ถูกลง และความสะดวกสบายจากการใช้งานด้วยน้ำหนักที่เบาและเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้น ส่งผลให้ตลาดโปรเจคเตอร์ของไทยมีอัตราการเติบโตขึ้นปีละอย่างน้อย 40% จากมูลค่าของตลาดเมื่อปีที่ผ่านมาซึ่งจำหน่ายได้ประมาณ 3,000 เครื่อง นอกจากนี้ยังคาดว่าในปีต่อๆ ไปโปรเจคเตอร์จะยังคงมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอีกปีละ 40% โดยปัจจัยที่ส่งผลต่อการจำหน่ายโปรเจคเตอร์ ได้แก่ สภาพการแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้นส่งผลให้ราคาของโปรเจคเตอร์เมื่อปีที่ผ่านมาลดลงถึง 30% ซึ่งโปรเจคเตอร์รุ่นราคาที่ถูกสุดมีราคาจำหน่ายถูกกว่าทีวี 42” และความอยู่ตัวของเทคโนโลยีซึ่งจากเดิมโปรเจคเตอร์จะมีปัญหาในเรื่องของความสว่างและความละเอียดปัจจุบันปัญหาเหล่านี้ได้หมดไปแล้ว นอกจากนี้การที่โปรเจคเตอร์ถูกว่างให้เป็นสินค้าที่ไม่ใช่สินค้าเฉพาะกลุ่ม IT หรือ PC แต่กลับเป็นสินค้าประเภท AV ส่งผลให้โปรเจคเตอร์สามารถทำตลาด Home Theatre ได้มากขึ้น ซึ่งคาดว่าในปีนี้ตลาดโปรเจคเตอร์สำหรับ Home Theatre (AV) จะมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นแบบ 100% ส่วนตลาด PC จะมีอัตราการเติบโตประมาณ 25% ส่งผลให้สัดส่วนการใช้งานของโปรเจคเตอร์ที่ต่อกับ PC เปลี่ยนไป จากเดิมปี 2545 สัดส่วนการใช้งานของ PC มีอยู่ประมาณ 80% ในปีนี้คาดว่าจะลดลงเหลือ 70% ส่วนตลาด Home Theatre จะเพิ่มขึ้นเป็น 30% จากเดิมที่มีอยู่ 20% เอปสันคาดว่าจะสามารถครองส่วนแบ่งตลาดได้ประมาณ 20-25% ในปี 2546
จุดแข็งของการจำหน่ายโปรเจคเตอร์ของเอปสัน คือ
1.สามารถให้แสงสว่างและภาพที่คมชัด
2.การให้ความละเอียดของภาพแบบ SXGA , SVGA และ XGA
3.การมีเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเฉพาะของเอปสันเท่านั้น เช่น เทคโนโลยี Panel-on-Prism (POP) ที่ช่วยให้ปริซึมสามารถอยู่ใกล้กับตัวหลอดฉายมากขึ้นส่งผลให้ภาพเกิดความคมชัดและแสดงสว่างมากขึ้น หรือเทคโนโลยี sRGB Technology (New) เทคโนโลยีในการประมวลผลสีสัน ซึ่งเทคโนโลยี sRGB เป็นการร่วมมือกันเพื่อพัฒนาระหว่าง Microsoft Corporation , SEIKO EPSON Corporation และ Mitsubishi Electric Corporation เพื่อพัฒนาการจัดการสีให้เป็นมาตรฐานเดียวกันกับผู้ใช้ เพื่อการเห็นสีสันอย่างถูกต้องไม่ว่าจะเป็นการใช้อุปกรณ์ตัวไหนก็ตาม
4.การที่เอปสันเป็นผู้ผลิตจอ LCD ทำให้เอปสันสามารถรู้ถึงความต้องการของตลาดได้ก่อนใครจึงได้พัฒนาโปรเจคเตอร์ให้เหมาะสมกับคนทุกกลุ่มจนถึงปัจจุบันเอปสันมีโปรเจคเตอร์มากถึง 18 รุ่น
5.การที่เอปสันมีศูนย์บริการถึง 57 แห่ง จึงสามารถครอบคลุมการให้บริการได้ทั่วประเทศปัจจุบันเอปสันทั่วโลกมีโปรเจคเตอร์สำหรับจำหน่ายด้วยกันถึง 18 รุ่น ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น
6 Series ใหญ่โดยใช้เกณฑ์ในการแบ่งจากความสว่างของจอ และความละเอียดของภาพที่ให้ ได้แก่ 1.Home Theatre เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่มีความต้องการฉายโปรเจคเตอร์เพื่อความบันเทิง ทั้ง TV, DVD, Video, PC และGame ได้ทั้งในห้องขนาดเล็กถึงใหญ่ เช่น รุ่น EMP-TS10, EMP-30 และEMP-TW100 2.Value & High Performance เหมาะสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปที่ต้องการออกไปนำเสนองานนอกสถานที่ ซึ่งเหมาะสำหรับห้องประชุมขนาดเล็กถึงกลาง เช่น EMP-52และEMP-71 3.Ultra Portable เป็นโปรเจคเตอร์สำหรับผู้ที่ใช้งานในระดับมืออาชีพที่ต้องการออกไปนำเสนอนอกสถานที่และต้องการความสะดวกสบายในการใช้งานเหมาะสำหรับห้องประชุมขนาดเล็กถึงกลาง เช่น EMP-505, EMP-715, EMP-720 และ EMP-730 สำหรับตัวแทนจำหน่ายโปรเจคเตอร์ของเอปสันมีด้วยกัน 2 แห่งคือ SVOA และ MBA ซึ่งทั้ง 2 แห่งจะเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าให้กับดีลเลอร์ (ปัจจุบันเอปสันมีดีลเลอร์ที่จำหน่ายโปรเจคเตอร์ให้จำนวน 50 รายทั่วประเทศ) นอกจากนี้ SVOA ยังเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าให้กับหน่วยงานราชการ สถานศึกษาที่อยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด ส่วน MBA จะจำหน่ายให้กับตัวแทนจำหน่ายสินค้าให้กับสถานศึกษา หน่วยงานราชการ และบริษัทที่ทำงานเกี่ยวกับ Graphics ที่อยู่ในเขตกรุงเทพฯ สำหรับโปรโมชั่นส่งเสริมการขายในช่วงต้นปีนี้ลูกค้าที่ซื้อโปรเจคเตอร์ของเอปสันตั้งแต่เดือนมกราคม-มีนาคมศกนี้จะได้รับเครื่องเล่น DVD 1 เครื่อง และตลอดช่วงปีนี้เอปสันจะยังคงจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขายตลอดจนถึงสิ้นปี 2544 เป็นเครื่องฉายภาพมัลติมีเดียที่สามารถรองรับภาพวีดีโอ และคอมพิวเตอร์ได้ในตัวเดียว ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการสร้างความบันเทิงภายในบ้าน ด้วยรูปแบบของจอภาพที่ใหญ่ถึง 300 นิ้ว สัดส่วน 4:3 และยังสามารถให้ความละเอียดได้ถึง 480,000 (800x600) จุดภาพ x 3 (True SVGA) และยังสามารถปรับแก้ไขการแสดงผลภาพไม่ให้เกิดสี่เหลี่ยมคางหมูได้ในแนวตั้ง (Vertical Keystone Correction) ซึ่งจะช่วยลดความจำเป็นสำหรับการติดตั้งเครื่องไว้ในแนวกึ่งกลางจอ นอกจากนี้ยังมี Standard sRGB Technology เพื่อช่วยเพิ่มสีสันของภาพให้สมจริงเหมือนกับต้นฉบับ และเทคโนโลยีในการประมวลผลสีสันถึง 6 แบบ ทำให้ง่าย และเหมาะกับการใช้งานประเภทต่างๆ อาทิ Theatre, Presentation, Game, Meeting, sRGB, Normal Mode ซึ่งระดับเสียงในการทำงานของเครื่องขนาด 35 dB ถือว่าเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการให้ความบันเทิงภายในบ้าน สำหรับราคาขายปลีกของรุ่น EMP-30 (NEW) ขณะนี้จำหน่ายอยู่ที่ 76,600 บาท